หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา

หลวงพ่อคูณ เป็นพระชาวบ้านที่เข้าถึงมวลชนทุกระดับชั้น ตั้งแต่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน นักการเมืองไปจนถึงชาวบ้าน ด้วยท่านมีเมตตามหานิยม มีวิธีการสั่งสอนที่ตรงไปตรงมาง่ายแก่การเข้าใจ
วัดบ้านไร่เดิมเป็นสำนักสงฆ์เล็กๆ ที่มีมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2436 ในช่วงรัชกาลที่ 5 โดยมีพระอาจารย์เชื่อม วิรโธ เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกได้มีการก่อสร้างศาสนอาคารต่างๆ ขึ้น และมีพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ) เป็นเจ้าอาวาสปัจจุบัน

slotxo

หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เป็นชาวบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมาโดยกำเนิด ได้ถือกำเนิดเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2466 (บางตำราว่าวันที่ 4 ตุลาคม) ตรงกับวันแรม 10 ค่ำ เดือน 10 ปีกุน ในครอบครัวของชาวไร่ชาวนา สมัยที่หลวงพ่อคูณอยู่ในวัยเยาว์ 6-7 ขวบ ได้เข้าเรียนหนังสือ กับพระอาจารย์เชื่อม วิรโธ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสในขณะนั้น กับ พระอาจารย์ฉาย และพระอาจารย์หลี โดยเรียนทั้งภาษาไทย และภาษาขอม ที่วัดบ้านไร่นี่เอง และถือว่าเป็นสถานการศึกษาแห่งเดียวในหมู่บ้าน มิได้มีโรงเรียนทำการสอนเช่นในสมัยปัจจุบัน นอกจากเรียนภาษาไทยและขอมแล้ว พระอาจารย์ทั้ง 3 ยังมีเมตตาอบรมสั่งสอนวิชา คาถาอาคม เพื่อป้องกันอันตรายต่าง ๆ ให้แก่หลวงพ่อคูณด้วย นับว่าหลวงพ่อคูณรู้วิชาไสยศาสตร์มาแต่เยาว์วัย

xoslot

หลวงพ่อคูณได้อุปสมบท เมื่ออายุได้ 21 ปี ณ พัทธสีมาวัดถนนหักใหญ่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2487 (หนังสือบางแห่งว่า ปี 2486) ตรงกับวันศุกร์ เดือน 6 ปีวอก โดยพระครูวิจารย์ดีกิจ อดีตเจ้าคณะอำเภอด่านขุนทด เป็นพระอุปัชฌาย์ พระกรรมวาจาจารย์ คือพระอาจารย์สุข วัดโคกรักษ์ หลวงพ่อคูณได้รับฉายาว่า ปริสุทโธ หลังจากที่หลวงพ่อคูณอุปสมบทเป็นพระภิกษุเรียบร้อยแล้ว ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อแดง วัดบ้านหนองโพธิ์ ต.สำนักตะคร้อ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา (บางตำรากล่าวว่าเมื่อบรรพชาแล้วได้เล่าเรียนกับหลวงพ่อคง ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดถนนหักใหญ่ก่อน แล้ว หลวงพ่อคงจึงนำไปฝากกับหลวงพ่อแดง)
เวลาล่วงเลยนานพอสมควร กระทั่งหลวงพ่อคงเห็นว่า ลูกศิษย์ของตนมีความรอบรู้ชำนาญการปฏิบัติธรรมดีแล้ว จึงแนะนำให้ออกธุดงค์จาริกไปตามป่าเขาลำเนาไพร ฝึกปฏิบัติธรรมเบื้องสูงต่อไป แรก ๆ หลวงพ่อคูณก็ธุดงค์ จาริกอยู่ในเขตจังหวัดนครราชสีมา จากนั้นจึงจาริกออกไปไกล ๆ กระทั่งถึงประเทศลาว และประเทศเขมร มุ่งเข้าสู่ป่าลึก เพื่อทำความเพียรให้เกิดสติปัญญา เพื่อการหลุดพ้น จากกิเลส ตัณหา และอุปทานทั้งปวงพระพุทธรูปเก่าแก่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยาพบฝังอยู่ใต้โค่นต้นทองหลางภายในวัดนันทารามประดิษฐานภายในมณฑปกลางน้ำภายในบริเวณวัด เป็นเคารพสักการะของชาวบ้านทั้งใกล้และไกล พระหลวงพ่อผุด เป็นพระพุทธรูปหินทรายแดง ศิลปสมัยกรุงศรีอยุธยา เหตุที่ชื่อหลวงพ่อผุด เนื่องจาก เมื่อปี พ.ศ.2404 เกิดเหตุฟ้าผ่าต้นทองหลาง และมีการพบเจอพระพุทธรูปผุดขึ้นจากดินบริเวณใต้ต้นทองหลางนั่นเอง วัดนันทารามเดิมชื่อวัดใต้ เป็นวัดที่ประดิษฐานหลวงพ่อผุด พระพุทธรูปหินทรายแดง ศิลปสมัยกรุงศรีอยุธยาภายในวัดยังได้เก็บรักษาศิวลึงค์องค์ใหญ่องค์หนึ่งพบที่โบราณสถาน เขาคา อายุประมาณ 1,200 ปี ในราวศตวรรษที่ 12-14 สลักจากหินปูนและสมบูรณ์ที่สุด เท่าที่พบในภาคใต้ วัดนันทารามตั้งอยู่ที่ถนนชายน้ำ ปากพนังฝั่งตะวันออก
วัดนันทารามมีพระสำคัญองค์หนึ่งซึ่งทรงวิทยาคุณคือพระครูนนท์ เป็นเจ้าอาวาสวัดนันทารามองค์สำคัญที่มีวัตรปฏิบัติเป็นที่น่าเลื่อมใสมาก ท่านเป็นพระที่ทรงวิทยาคุณสูงองค์หนึ่งเป็นสหธรรมมิกที่มีอวุโสกว่าหลวงปู่เขียว วัดหรงบลครับ เหรียญพระพุทธ หลวงพ่อผุดท่านได้สร้างไว้เมื่อประมาณ พศ.2470 ซึ่งสร้างเป็นเหรียญรูปจำลองหลวงพ่อผุด สร้างด้านหลังเหรียญจะเรียบ เหรียญหลวงพ่อผุดบางเหรียญก็จะมีรอยจารเอาใว้ การจารก็จะต่างกันออกไป

เครดิตฟรี

หลังจากที่พิจารณาเห็นสมควรแก่การปฏิบัติแล้ว หลวงพ่อคูณจึงออกเดินทางจากประเทศเขมรสู่ประเทศไทย เดินข้ามเขตด้านจังหวัดสุรินทร์ สู่จังหวัดนครราชสีมา กลับบ้านเกิดที่บ้านไร่ และได้เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ในเวลาต่อมา จากนั้นจึงเริ่มดำเนินการก่อสร้างถาวรวัตถุทาง พระพุทธศาสนา ในช่วงที่หลวงพ่อคูณเป็นเจ้าอาวาส วัดบ้านไร่ได้มีการพัฒนามากที่สุด โดยเริ่มสร้างอุโบสถ พ.ศ.2496 โดยชาวบ้านได้ช่วยกันเข้าป่าตัดไม้ ซึ่งในสมัยก่อนมีอยู่มาก การตัดไม้ในสมัยนั้น ไม่ค่อยสะดวกนัก เพราะไม่มีเครื่องจักร ไม่มีถนน กว่าจะได้ไม้ที่เลื่อยแปรสภาพสำเร็จแล้ว ต้องเผชิญกับการขนย้ายที่ยากลำบาก โดยอาศัยโคเทียมเกวียนบ้าง ใช้แรงงานคนลากจูง บนทางที่แสนทุรกันดาร เนื่องจากถนนทางเกวียนนั้นเป็นดินทรายเสียส่วนใหญ่ เมื่อต้องรับน้ำหนักมากก็มักทำให้ล้อเกวียนจมลงในทราย การชักจูงไม้แต่ละเที่ยวจึงต้องใช้เวลาถึง 3-4 วัน แต่กระนั้นหลวงพ่อก็สามารถนำชาวบ้านช่วยกันสร้างพระอุโบสถจนสำเร็จ (ปัจจุบันได้รื้อลงแล้ว และก่อสร้างหลังใหม่แทน) นอกจากสร้างพระอุโบสถแล้ว หลวงพ่อยังสร้างโรงเรียน กุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ รวมทั้งขุดสระน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภค ยังความสะดวกสบาย และความเจริญในบ้านไร่ยิ่งนัก แม้ปัจจุบันจะไม่ได้เห็นสิ่งดังกล่าว เนื่องจากหลวงพ่อได้เปลี่ยนสิ่งก่อสร้างดังกล่าวทั้งหมด มาเป็นปูนเป็นอิฐให้สวยงามและทนทานยิ่งขึ้น

สล็อต xo

นอกจากการก่อสร้างอุโบสถแล้ว หลวงพ่อคูณยังสร้างกุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ ขุดสระน้ำไว้เพื่ออุปโภคและบริโภค และที่สำคัญยังสร้างโรงเรียนไว้เพื่อเด็กบ้านไร่อีกด้วย นอกเหนือจากนั้น ด้วยมีผู้ศรัทธาจากทั่วประเทศได้ร่วมถวายวัตถุปัจจัยเป็นเงินมหาศาล หลวงพ่อยังได้นำเงินบริจาคต่างๆ ที่ได้มา ก่อตั้งเป็นมูลนิธิหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เพื่อกิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่างๆ เช่น สร้างโรงพยาบาล โรงเรียน หอสมุด เป็นต้น
ปัจจุบัน วัดบ้านไร่ ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมา มีพุทธศาสนาสนิกชนเป็นจำนวนมาก เดินทางมาที่วัดบ้านไร่แห่งนี้ เพื่อสักการะหลวงพ่อคูณ และหวังจะให้หลวงพ่อคูณเคาะหัวเพื่อเป็นศิริมงคลซักครั้งของบรรดานักสะสมทั้งหลาย ได้พยายามใฝ่หาไว้ในครอบครอง เพราะปรากฏการณ์ในอดีตที่ผ่านมาในเรื่องอำนาจปาฏิหาริย์ของพระพุทธคุณ
เป็นที่เชื่อถือได้ เป็นที่เลื่องลือระบือไกล จนมีชื่อเสียงดังกระฉ่อนไปทั่วทุกสารทิศ ไม่ว่าจะอยู่นอกหรือในแคว้นเดนไกล ลือลั่นดังกระหึ่มก้องไม้รู้หาย พระประเภทดังกล่าวมานี้เป็นที่สนใจของทุกๆ คนมาโดยตลอด ไม่ว่าเจ้านายฝ่ายใดทุกระดับชั้นที่เข้ามารับราชการในเมืองนี้ พอย่างเข้ามาถึง อันดับแรกที่จะพูดก็คือ พระหูยานเมืองลพบุรี กิติศัพท์และพุทธคุณอันสูงส่งเป็นที่โจษขานกันอย่างระเบ็งเซ็งแช่มาแต่อดีต จนกระทั่งปัจจุบันนี้ เสียงลือเสียงเล่าอ้างนั้นคงจะดังกระหึ่มอยู่อย่างนี้ชั่วกัปชั่วกัลป์
ความเกรียงไกรและยิ่งใหญ่ของพระหูยาน มีผู้พูดหลายร้อยหลายพันคน ซ้ำแล้วซ้ำเล่าครั้งแล้วครั้งเล่าว่า พระหูยานนั้นเหนียวชะมัด ขนาดปืนยังไม่ดังหนังไม่ถลอกซึ่งเป็นเรื่องที่เล่าติดต่อกันมาตั้งแต่อดีตจน ถึงปัจจุบัน นับเป็นร้อยเป็นพันราย ไม่มีเสื่อมคลาย เหตุนี้เองจึงมีนักสะสมทั้งรุ่นใหม่สนใจหากันอยู่มิได้ขาด และยังจะหากันต่อไปอีกนานเท่านานไม่มีวันจบสิ้น